Saturday, July 08, 2017

ปัจจุบันกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนจากต่างประเทศมากที่สุดในโลก พูดง่ายๆคือเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลก แซงหน้าแชมป์เก่าอย่างมหานครลอนดอนอย่างเฉียดฉิว CB Richard Ellis ประเมินว่าราคาที่ดินทำเลทองในกรุงเทพฯจะปรับฐานในอีก 3-5 ปี ปัจจุบันจึงเกิดโครงการอสังหาฯขนาดใหญ่รองรับการเติบโต วันนี้จะพูดเรื่องมวยคู่แรก พื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

ทำเลทองสองฝั่งเจ้าพระยา Asiatique vs. Icon Siam


          Asiatique & The Landmark Waterfront: บริเวณตีนสะพานตากสินฝั่งพระนครเริ่มตั้งแต่ตลาดบางรัก โรงเรียนอัสสัมชัญ วัดยานาวา โรงเรียนวัดสุทธิวราราม สะพานปลา โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury เลียบถนนเจริญกรุงตลอดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึง Asiatique ครอบคลุมโครงการ The Landmark Waterfront มูลค่าเกือบสองหมื่นล้าน ที่มีโรงแรมหรู 6 ดาว อย่าง Capella และ โรงแรม Jumeirah จากดูไบ ศูนย์การค้า และคอนโดหรูขนาด 36 ไร่ที่จะเกิดใหม่อย่าง Four Season Private Residences ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จปี 2561 จะเป็นอาคารสูงอันดับ 3 ของประเทศด้วยความสูง 305 เมตร สูงกว่าอาคารใบหยก2เพียง 1 เมตร, ปัจจุบันย่านนี้มีคอนโดเทลและโรงแรมหรูอยู่แล้วอย่าง Chatrium, Menam Residences, โรงแรมแม่น้ำ และโรงแรมทองธารา เสน่ห์ของย่านนี้คือความหรูหราลงตัวของที่อยู่อาศัยและที่พักของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ระดับ high-end กับสีสันของตลาดกลางคืน Asiatique ซึ่งแม้จะดูเหมือนตลาดนัดจัดฉากเพราะมีนักท่องเที่ยวจากทัวร์จีนมากกว่าคนในพื้นที่ แต่ก็มีจุดขายที่แตกต่างจากตลาดเก่าอย่างตลาดบางรักซึ่งเป็นตลาดของคนในพื้นที่จริงๆซึ่งอยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงกันได้ ชิงช้าสวรรค์ของ Asiatique ยังเป็น landscape สำคัญของย่านนี้ สรุปว่าย่านนี้หัวตลาดท้ายตลาดจริงๆ แถมนักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบไทย ทั้งตลาด วัด และโรงเรียนเก่าแก่ เป็นเป็นสีสันของการใช้ชีวิตและท่องเที่ยวกรุงเทพฯจริงๆ

Icon Siam & หอชมเมืองกรุงเทพฯ: ย่านนี้ในอนาคตจะเป็นคู่เทียบและคู่แข่งสำคัญของย่านแรกเพราะอยู่กันคนละฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย นำโดยโครงการศูนย์การค้า โรงแรม และคอนโดหรูเกิดใหม่อย่าง Icon Siam บนพื้นที่ 40 ไร่จะมีอาคารสูงที่สุดในประเทศ 315 เมตร เกิดใหม่แซงหน้าสูงกว่าอาคารมหานครเพียง 1 เมตร โครงการระดับห้าหมื่นล้านนี้เป็นการร่วมทุนของกลุ่ม CP ภายใต้ชื่อ Magnolia และกลุ่มสยามพิวรรธน์ เจ้าของอาณาจักรศูนย์การค้า Siam Discovery, Siam Center, และ Siam Paragon เพราะฉะนั้นศูนย์การค้าของที่นี่คงไม่ธรรมดาแน่นอน แถมยังได้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างหอชมเมืองมีเป็นโคมประดับเหมือนเสือติดปีก ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ว่าจะใช้ชื่อว่าอะไรระหว่าง The Unity Tower, Bangkok Observatory หรือ Icon Siam Tower ตลอดแนวมีโรงแรมหรูอย่าง The Peninsula, Hilton Millennium และคอนโดหรูอย่าง The River ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารสูงอันดับ 3 ของประเทศ ตลอดจนท่าเรือและตลาดคลอนสานยาวจนถึงโรงพยาบาลตากสิน เรียกว่าเอาตลาดคลองสานสู้ตลาดบางรักของฝั่งพระนคร โรงพยาบาลเลิศสินสู้โรงพยาบาลตากสินกันเลยทีเดียว ซึ่งตลอดแนวถนนเจริญนครนี้กำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีทองวิ่งผ่าน และนี้จะเป็นข้อได้เปรียบของ Icon Siam เหนือ Asiatique ซึ่งทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยนักท่องเที่ยวจีน หากนักท่องเที่ยวจีนยกพลกันมาฝั่งธนฯแล้ว Asiatique ยังจะมีอะไรสู้อีกหรือไม่เพราะจริงๆก็ยังที่ว่างริมน้ำที่ตอนนี้ใช้เป็นลานจอดรถ เมื่อ Icon Siam ได้ตัวช่วยอย่างหอชมเมืองไปครอง แถมยังมีเรือข้ามฟากเชื่อมต่อฝั่งท่าเรือด่วนเจ้าพระยาที่โรงแรม Royal Orchid Sheraton และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีทองรองรับ รับรองว่านักท่องเที่ยวจีนคงถูกโยกจากฝั่งเจริญกรุงมาฝั่งเจริญนครแน่ งานนี้งัดกันเต็มๆระหว่างเจ้าสัวธนินทร์และเจ้าสัวเจริญ แม้ความสูงของชิงช้าสวรรค์จะเทียบไม่ได้เลยกับความสูง 459 เมตรของหอชมเมืองที่ดูจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Icon Siam ไปแล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้(เพราะสมประโยชน์กัน) แต่การนั่งชิงช้าสวรรค์ก็ได้สัมผัสบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับกลิ่นอายของแม่น้ำเจ้าพระยาได้มากกว่า แถมค่านั่ง 200.- บาทยังถูกกว่าค่าขึ้นหอ 750.- อีก 

กุญแจสำคัญ "ตลาดบางรัก" จุดเชื่อมต่อสองทำเลทอง
ต้องบอกว่าในอนาคตสองทำเลทองนี้จะเป็นมวยถูกคู่กันจริงๆ แต่หากอนาคตเจ้าสัวทั้งสองเปลี่ยนคู่แข่งเป็นพันธมิตรก็คงสมประโยชน์กันไม่น้อย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีเพราะสะดวกกับนักท่องเที่ยว ทำให้ประเทศมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น กรุงเทพอาจจะยังรักษาตำแหน่งแชมป์เมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกได้ อีกหน่อยก็คงมีเรือท่องเที่ยวรับส่งระหว่างกัน เพราะตลาด outdoor ของ Asiatique ก็มีจุดขายต่างจากศูนย์การค้าใหญ่ติดแอร์อย่าง Icon Siam อยู่แล้ว แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่จะเป็นจุดเชื่อมโยงทำเลทั้งสองไว้คือตลาดบางรัก เพราะแม้ดูจากระยะทางจะใกล้กับ Icon Siam มากกว่าแต่อยู่คนละฝั่งแน่นำ้กัน ต่างจาก Asiatique ที่แม้อยู่ไกลกว่าแต่ก็อยู่บนถนนเส้นเดียวกับเดินถึงกันได้เลย ด้านการคมนาคมทั้งสองทำเลจะมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยารองรับการเติบโตในอนาคต ฝั่งเจริญกรุงกำลังจะมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่องต่อจากถนนจันทน์บริเวณคอนโด Chatrium ถึงถนนเจริญนคร ส่วนฝั่งเจริญนครเองก็จะมีสะพานจากถนนลาดหญ้าหรือท่าเรือคลองสานเชื่อมกันฝั่งเจริญกรุง ทำให้สัญจรระหว่างสองฝั่งแม่น้ำสะดวกมากและเชื่อมถึงกัน

โอกาสหน้าจะพูดถึงมวยคู่ที่สอง One Bangkok vs. Super Tower & G Land ต่อไปครับ


No comments: