Wednesday, September 13, 2006

สวัสดี เติ้ล

เติ้ลคิดถูกแล้วล่ะเรื่องการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ คงเป็นเพราะอานิสงฆ์จากการสวดมนต์ไหว้พระทุกวันอย่างเติ้ลว่าที่ทำให้เติ้ลได้คิดในข้อนี้ คนส่วนใหญ่คิดข้อนี้ได้ก็เมื่อมีอายุมากขึ้นแล้ว เมื่อโรคภัยเริ่มถามหาน่ะ มันเลี่ยงไม่ได้นะ ทำให้ต้องกลับมาแสวงหาความสุขที่แท้จริงในชีวิตที่วัตถุและของมีค่าไม่ใช่คำตอบ แต่หลายคน (รวมทั้งพี่ด้วย) ต้องรอเรียนรู้จากประสบการณ์ หรือรอให้เรื่องเกิดก่อนจึงคิดได้ แต่ก็สายเสียแล้ว ก็เป็นข้อเตือนใจนะว่าอย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท เงินทองมากมายก็หมดได้ ร่างกายที่แข็งแรงก็เจ็บป่วยได้ พี่ตั้งใจว่าอยากเรียนให้จบเร็วๆ แล้วกลับไปทำประโยชน์ให้สังคมนอกเหนือจากบทบาทของอาจารย์ ยังไม่รู้เหมือนกันว่าพี่จะไปทำอะไร แค่มีความตั้งใจเท่านั้น เอาเป็นว่าคิดเป็นเรื่องๆไปดีกว่า แค่เรื่องเรียนให้จบได้นี่ก็ไม่ง่ายแล้ว เครียดอยู่ทุกวันก็เรื่องนี้ พี่ว่าคนเรามีเงื่อนไขที่ต่างกันไป และไม่ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ ก็ยังมีชีวิตที่ต้องดำเนินต่อและต้องทำให้ดีที่สุด เติ้ลเองก็เหมือนกัน เรียนจบแล้วก็ยังต้องมีภาระหน้าที่และชีวิตที่ต้องดำเนินต่อ บางทีก็ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อผู้อื่น เพื่อคนที่เรารัก เช่น คุณพ่อ คุณแม่ และน้องๆ เป็นต้น เพราะ ... ชีวิตเรามีคุณค่าเสมอกับคนที่อยู่รอบตัวเรา และคนอื่นๆในสังคม สุดแท้แต่เราจะสร้างคุณค่านั้นให้เกินขึ้นได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นต้องทำให้ดีที่สุด

รัก และ คิดถึงเสมอ
พี่ชาย

No comments: