Sunday, December 13, 2009

ปุจฉา: ทำไมเวลาราคาน้ำมันขึ้นราคาทองคำจึงขึ้นด้วย และเวลาน้ำมันลงราคาทองคำก็ลงตาม?

วิสัจฉนา: ราคาน้ำมันที่สูงขั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อครับ เพราะไม่ว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้นเท่าไร เราก็ยังต้องใช้ปริมาณน้ำมันเท่าเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ไม่เหมือนผักผลไม้ หรือเนื้อสัตว์เช่นหมูแพงก็หันไปกินไก่แทน!) และที่สำคัญเป็นรายจ่ายครัวเรือนก้อนใหญ่เมื่อเทียบกับรายจ่ายประจำเดือนอื่นๆ

ณ วันนี้น้ำมัน ไบโอดีเซลที่ผมใช้ราคาลิตรละ 26.79 ผมใช้น้ำมันวันละ 8 ลิตร = เป็นเงิน 214.32 บาท วันดีคืนดีไบโอดีเซลที่ผมใช้เกิดขึ้นราคาเป็นลิตรละ 30 บาท เงิน 214.32 บาทที่เคยจ่ายกลับซื้อน้ำมันได้ไม่ถึง 8 ลิตรอย่างที่เคย เงินผมก็ด้อยค่าลง ผมจึงต้องจ่ายเงินมากขึ้นกว่าที่เคยจ่าย เมื่อรายจ่ายมากขึ้นก็ต้องหารายได้มากขึ้นเพื่อมาทดแทนกัน ในที่นี้ผมเป็นอาจารย์ ค่าชั่วโมงสอนเป็นสินค้า เมื่อผมขึ้นค่าชั่วโมงสอน ก็เดือดร้อนผู้ปกครองต้องจ่ายเงินให้นักศึกษาที่มาเรียนกับผม ผู้ปกครองก็ต้องทำวิธีเดียวกันคือเพิ่มราคาสินค้าของตนให้สูงขึ้นกรณีเป็นผู้ประกอบการ ถ้าทุกคนทำเช่นนี้ ก็เกิดเงินเฟ้ออย่างเลี่ยงไม่ได้ไงครับ คือราคาสินค้าเพิ่มแต่มูลค่าจริงๆของสินค้าไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม บาปตกอยู่ที่ผู้บริโภคที่ไม่มีอำนาจเพิ่มมูลค้าสินค้าของตนได้ หรือผู้ไม่มีสินค้าเป็นของตน ก็คือมนุษย์เงินเดือนไงครับ ต้องจ่ายราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะที่เงินเดือนเท่าเดิม

เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อเช่นนี้แล้ว ราคาทองคำจะยังยืนหยัดอยู่เท่าเดิมก็เห็นจะไม่ได้ล่ะครับ เพราะถ้าไม่ปรับราคาให้สูงขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อเสียแล้ว ทองคำก็จะมีค่าด้อยลงไปทันที บรรดาผู้ค้าทองคำไม่ยอมให้มูลค่าทองที่ตนเองถือยู่ต้องด้อยลงไปเพราะเงินเฟ้อก็เลยรวมกลุ่มเป็นสมาคมผู้ค้าทอง เพื่อกำหนดราคาทองคำมาตราฐานขึ้นในแต่ละวัน บรรดาพ่อค้าร้านทองจะวิทยุถึงกันทุกเช้าครับเพื่อปรับราคาทองคำใหม่ให้เข้ากับสภาวะของตลาดเพื่อรักษามูลค่าแท้จริงของทองคำไว้

สรุปเมื่อน้ำมันแพงก็กระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อ ราคาทองจึงต้องถูกปรับขึ้นเพื่อรักษามูลค่าที่แท้จริงของทองคำไว้ครับ

No comments: